การติดต่อสื่อสารอย่างมีคุณภาพ (Effective Communication) โดย ภญ.ธันยพร จารุกว้างใหญ่Tags: หลักสูตรการติดต่อสื่อสาร, หลักสูตร effective communication
การติดต่อสื่อสารอย่างมีคุณภาพ
การติดต่อสื่อสารอย่างมีคุณภาพ (Effective Communication)
สำหรับในการดำเนินงานนั้น การติดต่อสื่อสารเป็นความถนัดที่ใช้บ่อยๆไม่ว่าคุณจะอยู่ในหน้าที่หัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน หลายทีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความรู้ความเข้าใจที่ขัดแย้งของผู้ส่งสารแล้วก็ผู้รับสาร ด้วยเหตุนั้นแม้มีความถนัดสำหรับเพื่อการติดต่อที่ดีจะช่วยทำให้ได้งานตามอยากได้ ปฏิบัติงานได้อย่างง่ายดาย รวดเร็วทันใจ นำมาซึ่งการทำให้คุณภาพสำหรับเพื่อการดำเนินงานสูงและก็แฮปปี้สำหรับในการปฏิบัติงาน คนภายในหน่วยงานมีความร่วมแรงร่วมมือกัน ความไม่ถูกกันลดน้อยลงจ้ะ
อำเภอภญ.ธันยพร (ก้อย) เห็นว่าความชำนาญนี้เป็นความชำนาญที่สำคัญ แล้วก็ฝึกหัดได้ ก็เลยตั้งอกตั้งใจที่จะแบ่งปันวิชาความรู้และก็ประสบการณ์ แล้วก็เชื้อเชิญทุกคนมาฝึกซ้อมกันจ้ะ
ติดต่อสื่อสาร ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช๒๕๕๔ คือ นำถ้อยคำ ใจความ หรือหนังสือ ฯลฯ ของข้างหนึ่งส่งให้อีกข้างหนึ่งโดยมีสื่อนำไป ในเนื้อหานี้จะเน้นย้ำเรื่อง two-way communication หรือการติดต่อสื่อสาร 2 ทาง ซึ่งเป็นการติดต่อที่ผู้รับสารมีการสนองตอบ มีปฏิกิริยาตอบกลับไปยังผู้ส่งสาร ดังเช่นว่าตอบโต้ เปลี่ยนความนึกคิดกัน ฯลฯ
ความสามารถการติดต่อสื่อสารที่มีคุณภาพ มีดังนี้
1. การเป็นคนฟังที่ดี
การฝึกฝนเป็นคนฟังที่ดี เป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการฝึกฝนติดต่อสื่อสาร ถ้าเกิดพวกเราฝึกฝนฟัง โดยการมีสติสัมปชัญญะ อยู่กับปัจจุบันนี้ ตั้งใจฟังคนข้างหน้าอย่างตั้งใจ แล้วก็บริสุทธิ์ใจ ไม่พูดขัดจังหวะ จะก่อให้เพื่อนคุยมีความคิดว่าพวกเราเอาใจใส่ รวมทั้งต้องการที่จะเล่า แล้วก็พวกเราเองก็จะรับทราบสารสำคัญที่เขาอยากได้สื่อ ตรงกันข้าม ถ้าเกิดพวกเราถูกใจที่จะบอกแบ่งปัน และก็ฟังน้อย หรือตัดบทเวลากล่าวอื่นบอก หรือบอกสวน/ พูดขัดจังหวะ อาจจะเป็นผลให้เพื่อนคุยรู้สึกแย่ ไม่ต้องการที่จะอยากคุยด้วย ไม่ต้องการฟัง มีความรู้สึกว่าไม่ให้ความเอาใจใส่หรือให้เกียรติเขาน้อย รวมทั้งไม่ต้องการร่วมมือด้วย ถ้าหากมาอ้อนวอนจ้ะ
2. การติดต่อสื่อสารด้วยอวัจนถึงภาษา (Non-verbal communication)
สำหรับในการสื่่อสาร วักระทั่งภาษาหมายถึงคำกล่าวส่งผลเพียงแค่ 7% ที่เหลืออีก 93%เป็นอวัจนถึงภาษา ดังเช่นว่า ภาษากาย แล้วก็น้ำเสียง ส่งผลต่อการติดต่อสื่อสารถึง 55% รวมทั้ง 38% เป็นลำดับ(จากงานศึกษาเรียนรู้ของนักจิตวิทยา Albert Mehrabian)
ภาษากาย ได้แก่ การยิ้มแย้ม การจ้องตากัน ท่านั่งสบายๆบรรเทา เอนมาด้านหน้า เป็นภาษากายที่ดีสำหรับในการติดต่อสื่อสารจ้ะ ส่วนน้ำเสียงจะสะท้อนถึงความรู้สึกข้างในของผู้พูด
3. การเปิดใจ
การติดต่อสื่อสารที่ดีจะเกิดขึ้นได้นั้น พวกเราจำเป็นต้องเปิดใจที่จะยอมรับฟังมุมมองหรือความเห็นที่ต่างกันจ้ะ
4. การถามคำถาม
การถามคำถามแสดงถึงความพึงพอใจสำหรับในการฟัง และก็ช่วยสำหรับในการเช็คความรู้ความเข้าใจในเนื้อความ หรือรู้เรื่องเนื้อหาที่มากขึ้นจ้ะ
ปริศนามีหลายแบบ ตัวอย่างเช่น
ปัญหาปลายเปิด เป็นต้นว่า อะไร เช่นไร ช่วยทำให้พวกเราได้เนื้อหามากขึ้น อาทิเช่น คุณมีมุมมองยังไงกับประเด็นนี้
ปริศนาปลายปิด ยกตัวอย่างเช่น ใช่หรือเปล่า พวกเราสามารถประยุกต์ใช้สำหรับในการเช็คความถูกต้องแน่ใจของเนื้อความที่พวกเราได้ยินได้ ดังเช่น คุณปรารถนาสรุปรายงานการประชุมข้างในวันศุกร์นี้ใช่หรือไม่ใช่
5. ความเป็นเพื่อน
ความเป็นเพื่อนจะแสดงออกผ่านน้ำเสียงแล้วก็สีหน้าท่าทาง ถ้าเพื่อนคุยรู้สึกถึงความเป็นเพื่อน เขาจะเปิดใจที่จะยอมรับฟัง และก็เสนอความเห็น/ตอบอย่างจริงใจ ไม่ปกปิดจ้ะ
6. ความเชื่อมั่น
ความเชื่อมั่นและมั่นใจจะแสดงออกทางเรือเสียง ถ้าเกิดน้ำเสียงหนักแน่น มั่นอกมั่นใจ จะทำให้คนฟังเชื่อในสิ่งที่คุณบอก
7. การให้เกียรติคู่เจรจา
การให้เกียรติเพื่อนคุย ยกตัวอย่างเช่น จ้องตา ตั้งใจฟัง เลี่ยงการรับโทรศัพท์ในเวลาที่คุยกับคนอื่นๆ ไม่ทำอันอื่นไปด้วยเวลาที่เสวนา ตัวอย่างเช่น พิมพ์เนื้อความในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ฯลฯ
8. การให้ feedback
การให้ feedback ตัวอย่างเช่น การสะท้อนในสิ่งที่ดีในตัวคู่เจรจา หรือพฤติกรรมที่ดี หรือการสะท้อนเพื่อมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น หรือการดู เป็นการสะท้อนให้เกิดกำลังใจมากขึ้นเรื่อยๆจ้ะ
ภายหลังอ่านแล้ว พวกเราบางทีอาจประเมินว่าความถนัดข้อไหนที่พวกเราทำเป็นดี และก็ข้อไหนที่พวกเราทำเป็นดีน้อยสุด ต้องการเริ่มปรับปรุงก่อน แล้วฝึกหัดที่ข้อนั้นๆก่อนจ้ะ
อำเภอก้อย หวังว่าเนื้อหานี้จะช่วยปรับปรุงให้มีการติดต่อที่ดีและก็มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น นำมาซึ่งการทำให้ดำเนินการได้ดิบได้ดีเพิ่มขึ้นรวมทั้งสุขสบายสำหรับในการปฏิบัติงานนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น